คุณภาพและความอ่อนเยาว์ของผิว

 มีการใช้คอลลาเจนในการแพทย์แผนจีนมาเป็นเวลาหลายพันปีในการรักษาความผิดปกติของข้อ แพทย์ในสมัยนั้นแนะนำให้ผู้ป่วยบริโภคกระดูกอ่อนของสัตว์ ซึ่งตามธรรมชาติแล้วได้รับการสนับสนุนอย่างดี

ต่อมาในศตวรรษที่ 12 แม่ชีชาวเยอรมัน หมอประจำคริสตจักร Hildegard of Bingen collagen uc ii  ได้แนะนำให้บริโภคน้ำซุปลูกวัวเพื่อเสริมสร้างกระดูก

จนกระทั่งปี 1871 ได้มีการระบุคอลลาเจนจริงๆ และอีกหนึ่งศตวรรษต่อมาที่นักวิจัยชาวยุโรปได้พิจารณาถึงผลกระทบที่มีต่อสุขภาพของมนุษย์

คอลลาเจนเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่คล้ายไกลโคโปรตีนเส้นใย เป็นโปรตีนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในอาณาจักรสัตว์และคิดเป็น 30 ถึง 35% ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกายมนุษย์ มีอยู่ในผิวหนัง กระดูกอ่อน เส้นเอ็น เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และเอ็น ให้โครงสร้างและความแข็งแรงที่ดี

คอลลาเจนมาจากภาษากรีก kólla ซึ่งหมายถึงกาว โดยอ้างอิงถึงหน้าที่ของกาว คอลลาเจนจำเป็นสำหรับทั้งความยืดหยุ่นของผิวหนังและความยืดหยุ่นของข้อต่อ นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการดึงดูดและกักเก็บน้ำในเนื้อเยื่อเพื่อช่วยต่อสู้กับภาวะขาดน้ำ

คอลลาเจนมี 3 ประเภท: คอลลาเจน I ในผิวหนังและเนื้อเยื่อกระดูก, คอลลาเจน II ในกระดูกอ่อน และคอลลาเจน III ในกล้ามเนื้อและเครือข่ายเลือด

น่าเสียดายที่การผลิตคอลลาเจนในร่างกายของเราลดลงตามอายุ โดยเฉพาะหลังจากอายุ 40 ปี คอลลาเจนที่ลดลงนี้เป็นสาเหตุของความยืดหยุ่นของผิวที่แย่ลงและความเปราะบางของข้อต่อและกระดูก

แหล่งอาหาร

อาหารค่อนข้างน้อยมีคอลลาเจน

พบในเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เป็นวุ้นของเนื้อ เช่น เท้าหรืออุ้งเท้า หาง ปากกระบอกปืน น้ำซุปไขกระดูก ... เนื้อลูกวัวเป็นแหล่งคอลลาเจนที่น่าสนใจเช่นกัน

เยื่อหุ้มไข่แดงยังมีคอลลาเจน

คอลลาเจนจากทะเลยังพบได้ในผิวหนัง กระดูก และเกล็ดของปลา ในที่สุดเจลาตินจากสัตว์ก็ทำมาจากวัตถุดิบจากสัตว์ที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน  miracles collagen type 2

ประโยชน์และคุณธรรม

ปวดข้อ

ส่วนประกอบสำคัญในข้อต่อ คอลลาเจนช่วยให้เกิดการทำงานร่วมกันและความยืดหยุ่น เมื่อความเจ็บปวดปรากฏขึ้น เนื่องจากอายุหรือการออกกำลังกายที่รุนแรง มักเกี่ยวข้องกับการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันซึ่งประกอบขึ้นจากคอลลาเจน

การศึกษาในอเมริกาในปี 20081 ได้ศึกษาผลของคอลลาเจนไฮโดรไลเสตต่ออาการปวดข้อในนักกีฬา ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า "นักกีฬาที่บริโภคคอลลาเจนไฮโดรไลเสตอาจลดพารามิเตอร์ (เช่นความเจ็บปวด) ที่ส่งผลเสียต่อสมรรถภาพการกีฬา"

หนึ่งปีต่อมา ในปี 20092 การทดลองแบบสุ่มได้ตรวจสอบผลของคอลลาเจนไฮโดรไลเสตต่อความสบายของข้อต่อ ผลการวิจัยพบว่า "การปรับปรุงที่สำคัญในความสบายของข้อเข่าที่ประเมินโดยเครื่องชั่งน้ำหนักแบบแอนะล็อกเพื่อประเมินความเจ็บปวดและระดับย่อยของ Womac Pain "